ตัวอย่าง1: ชายอายุ 50 ปี ต้องการสร้างมรดกเงินสด 50 ล้านบาท - ทยอยส่งเบี้ยปีละ 1.92 ล้าน (20 ครั้ง) รวมเงิน 37.21 ล้านบาท
- รับรองมรดกทันที 50 ล้านบาท ตั้งแต่เริ่มโครงการไปจนครบอายุ 99 ปี
- เสียชีวิตทุกกรณี จ่ายเงินสดทันที 50 ล้านบาท
- พิการทุพพลภาพถาวร (ก่อนอายุ 60 ปี) ไม่ต้องส่งเบี้ยอีกต่อไป
- ถ้ามีอายุครบ 99 ปี รับเงินคืน 50 ล้านบาท
- สิ้นปีที่ 20 ถ้าต้องการปิดโครงการ รับเงินคืน 30.9 ล้านบาท
- จ่ายเงินซื้อมรดกใน 20 ปี รวมเท่ากับ 6.31 ล้านบาท
- ซื้อมรดก 50 ล้านบาท ใน 20 ปี เฉลี่ยเพียงปีละ 315,500 บาท
ตัวอย่าง2: หญิงอายุ 45 ปี ต้องการสร้างมรดกเงินสด 5 ล้านบาท - ทยอยส่งเบี้ยปีละ 136,000 บาท (20 ครั้ง) รวมเงิน 2.72 ล้านบาท
- รับรองมรดกทันที 5 ล้านบาท ตั้งแต่เริ่มโครงการไปจนครบอายุ 99 ปี
- เสียชีวิตทุกกรณี จ่ายเงินสดทันที 5 ล้านบาท
- พิการทุพพลภาพถาวร (ก่อนอายุ 60 ปี) ไม่ต้องส่งเบี้ยอีกต่อไป
- ถ้ามีอายุครบ 99 ปี รับเงินคืน 5 ล้านบาท
- สิ้นปีที่ 20 ถ้าต้องการปิดโครงการ รับเงินคืน 2.48 ล้านบาท
- จ่ายเงินซื้อมรดกใน 20 ปี รวมเท่ากับ 245,000 บาท
- ซื้อมรดก 5 ล้านบาท ใน 20 ปี เฉลี่ยเพียงปีละ 12,250 บาท
หมายเหตุ: - ตัวเลขในตัวอย่างเป็นตัวเลขโดยประมาณการ
| เงินบาทสุดท้ายคืออะไร? เงินฝากสุดท้ายที่เหลืออยู่ในธนาคาร ณ วันที่เราจากไป (ตาย) เรียกได้ว่าเป็นเงินบาทสุดท้ายของเรา ถ้าเรายังอยู่มันจะให้ดอกเบี้ยแก่เรา ทำให้เงินของเรางอกเงยเพิ่มขึ้นมา มีความเป็นไปได้ที่เราสามารถเพิ่มค่าเงินบาทสุดท้าย หลังจากที่เราได้จากไปแล้ว มอบทิ้งไว้เป็นมรดกก้อนสุดท้ายให้กับคนที่เรารักและห่วงใยมากที่สุด ด้วยเงินบาทสุดท้าย
โครงการนี้เหมาะสำหรับใคร? - ผู้ที่มีเงินเหลือเก็บ และต้องการสร้างมรดกไว้ให้ลูก
- ผู้ที่มีเงินเหลือเก็บ และต้องการสร้างมรดกไว้ให้พ่อแม่
- รองรับความไม่แน่นอนหากต้องจากไปก่อนพ่อแม่
- นักธุรกิจ ที่วางแผนปลดหนี้ธุรกิจและทิ้งมรดกเหลือไว้ให้คนที่รัก
- รองรับความไม่แน่นอนหากต้องจากโลกนี้ไปก่อน
- ผู้ที่มีความสามารถในการหารายได้สูง
- เพื่อคุ้มครองและปกป้องรายได้อนาคต
รับฟรีสิทธิพิเศษ - ตรวจสุขภาพฟรีประจำปี (ส่งเบี้ยขั้นต่ำปีละ 250,000 บาท)
- นำเบี้ยไปใช้ในการหักลดหย่อนภาษีได้
|