โพสต์29 ก.ย. 2553 22:39โดยสันติ จันทโชติ
[
อัปเดต 29 ก.ย. 2553 22:49
]
- เกิดมาเพื่อชดใช้กรรม ชาติก่อนทำบุญไว้มาก ทำบาปไม่เกิน 30 % ของกรรมทั้งหมด พอตายไปขึ้นสวรรค์ เสวยสุขไปชั่วระยะหนึ่ง เกิดความไม่สบายใจ จึงตัดสินใจลงมาใช้กรรมเก่าชั่วคราว คนผู้นี้เมื่อมาเกิดใหม่ จะได้รับความทุกข์ทรมาน แต่ความเดือดร้อนนั้นจะไม่มีพลังหักเหให้เขาหัน กลับไปทำความชั่วอีก เมื่อชดใช้กรรมหมดแล้ว ก็จะได้กลับไปเสวยสุขบนสวรรค์อีก
- เกิดมาเพื่อสร้างบารมี เมื่อโลกมนุษย์เกิดความระส่ำระสาย เทพเจ้าผู้ปกครองสวรรค์จะคัดเลือกเทพลงมาช่วยแก้สถานการณ์ เทพเหล่านี้เมื่อลงมาเกิดในโลกมนุษย์ ตลอดชีวิตจะต่อสู้เพื่อสังคม เพื่อความดีงาม เพื่อเสรีภาพไม่หยุดหย่อน แม้ภาวการณ์คลี่คลายลง เทพนั้นก็จะละร่างไปเสวยสุขในโลกเบื้องสูงต่อไป
- เกิดมาเพื่อเป็นประมุข เป็นผู้นำ เทพบางองค์ยอมเสียสละความสุขบนสวรรค์ลงมาเกิดเพื่อเป็นผู้นำหรือเป็นประมุข ปกครองคนหมู่มากให้มีความสุข เป็นการสร้างบารมีไปในตัวด้วย
- หนีนรกมาเกิด สัตว์นรกบางตนใช้กรรมในนรกยังไม่ทันหมดก็หนีมาเกิดในโลกมนุษย์ ครั้นนายนิรยบาลทราบเรื่องก็จะให้ยมทูตมาเอาตัวกลับไปทรมานอีก สัตว์นรกในร่างมนุษย์นั้นจะอายุสั้นตายตั้งแต่อายุยังน้อย
- หนีแดนโจรมาเกิด สัตว์ในแดนโจรบางตน ทนทุกข์ทรมานในแดนโจรแต่ยังไม่หมดกรรม ก็หนีมาเกิดในโลกมนุษย์ ทำให้มาเกิดเป็นคนพิการแต่กำเนิดหรือมีอุบัติเหตุทำให้กลายเป็นคนพิการในที่สุด
- หนีแดนเปรตมาเกิด เปรตที่ยังไม่หมดกรรม หนีมาเกิดในโลกมนุษย์ จะเป็นผู้ที่อดอยากยากไร้หิวโหย หาได้ไม่พอเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง อดมื้อกินมื้อ หรือกินแต่ของบูดเน่า ของเหลือเดน
- หนีแดนปีศาจมาเกิด ผู้ที่ชอบรีดนาทาเร้น คดโกงผู้อื่น ตายไปแล้วต้องไปต่อสู้ฟาดฟันกันเองในแดนปีศาจ บางตนใช้กรรมยังไม่หมดก็หนีมาเกิดในโลกมนุษย์ คนพวกนี้จะเป็นคนอาภัพ ได้รับการดูถูกเหยียดหยาม ถูกเอารัดเอาเปรียบจากสังคมและผู้เกี่ยวข้อง
- เกิดมาเพื่อเสวยสุข บางคนทำบุญไว้น้อย ทำบาปไว้มาก จึงต้องไปรับกรรมในอบายภูมิ เพื่อชดใช้กรรมหมด ก็ได้กลับมาเกิดในโลกมนุษย์เพื่อรับผลของบุญที่ทำไว้ คนพวกนี้จะมีนิสัยเลวร้ายชอบเอาเปรียบคดโกง แล้วร่ำรวยเพราะการกระทำดังกล่าว เขาจะเสวยสุขเพื่อรอวาระสุดท้ายในชีวิต ซึ่งยมทูตจะมารับกลับไปทรมานในอบายภูมิเช่นเดิม
- เกิดมาเพื่อเพิ่มเติมบารมีให้เต็ม เทพเจ้าบางองค์ ตั้งความปรารถนาที่จะเป็นพระพุทธเจ้า เป็นพระปัจเจกโพธิเจ้า เป็นพระอรหันตสาวก ฯลฯ แม้ตัวท่านจะมีบุญบารมีมากมาย แต่เขายังบกพร่องในบารมีธรรมบางข้อ ท่านจึงได้อำลาพรหมโลก ละทิ้งป่าหิมพานต์ หนีจากแดนบาดาลมาเกิดเป็นมนุษย์ คนพวกนี้จะตั้งหน้าตั้งตากอบโกยเอาแต่บุญบารมี ไม่ยอมสะสมหลักฐานหรือทรัพย์สมบัติใดเพื่อตนเอง ท่านจะยอมลำบากลำบน ทำแต่ความดี สร้างบารมี บางครั้งคนทั่วไปเลยหาว่าโง่
- เกิดมาเพื่อเสวยสุขและทุกข์ตามกรรมที่ทำไว้ในอดีตชาติ บางคนไม่สนใจเรื่องบุญบาป นรก สวรรค์ คนพวกนี้ทำบุญไว้มากกว่าบาป แต่บุญไม่มากพอที่จะส่งขึ้นสวรรค์ บาปก็ไม่มากพอที่จะส่งลงนรก เมื่อตายไปแล้วจึงต้องกลับมาเป็นมนุษย์อีก เสวยผลกรรมตามที่ทำไว้ในอดีตชาติ เขาจะใช้ชีวิตเฉกเช่นสามัญชนทั่วไป แสวงหารักแท้ ดิ้นรนเพื่อหน้าที่การงาน ต่อสู้เพื่อให้มีหลักฐานความมั่นคง ทำดีเพราะเห็นว่าเป็นหน้าที่ที่ควรกระทำ
- เกิดมาเพื่อทำลายล้าง บางคนเป็นคนที่มากไปด้วยความแค้น ไม่ยอมใคร หากในอดีตชาติเขาถูกศัตรูกลั่นแกล้งทรมาน เขาจะต้องหาทางแก้แค้น หากไม่ทันได้แก้แค้นและศัตรูตายไปก่อน เขาก็จะยังไม่ยอมเลิกรา ด้วยอำนาจความแค้นจะทำให้เขาเกิดร่วมชาติกับศัตรู เพื่อตามทำลายล้างกันตั้งแต่ต้นจนจบ เช่น ลูกชายเจ้าสำราญ ล้างผลาญทรัพย์สินของพ่อแม่ที่อดออมมาเป็นเวลานาน , ภรรยา โขกสับสามี จิกหัวใช้สามีเยี่ยงทาส , อาจารย์กลั่นแกล้งนักศึกษาจนต้องลาออก ไม่ได้รับประกาศนียบัตร , ประกอบการค้าเล็กๆ แต่ก็ถูกนายทุนใหญ่กลั่นแกล้งจนตัวเองล่มจม
- เกิดมาเพื่อปลดเปลื้องคำสาป บางคนทำบุญไว้มาก แต่ไม่เคยประพฤติศีลในครบถ้วน เมื่อตายไปได้ขึ้นสวรรค์ แต่ไม่รู้จักประพฤติตนให้เหมาะสม เทพเจ้าผู้ปกครองสวรรค์จึงใช้อำนาจบันดาลให้เขามาลงรับบทเรียนบางอย่างในโลก มนุษย์ มนุษย์พวกนี้ลงมาเกิดด้วยฤทธิ์คำสาปของสวรรค์ และด้วยบุญที่ทำมามาก เขาจึงมาเสวยสุขในโลกมนุษย์ แต่เป็นแบบมีขอบเขต เช่น มีเงินทองมากมาย แต่คิดทำการใหญ่เมื่อใด ก็จะขาดทุนป่นปี้ มีอาการแพ้วัตถุบางอย่าง เช่น ขึ้นเครื่องบินไม่ได้ เพราะมีอาการแพ้รุนแรง หรือ ต้องบูชาเทพบางองค์ ถ้าขาดบูชาเมื่อใดมักมีเรื่องเดือดร้อนตามมา
- เกิดมาเพื่อทดสอบอุดมคติ บางคนทำความดีไว้มาก ตายไปได้ขึ้นสวรรค์ ได้รับความเมตตาจากเทพฝ่ายบริการ ครั้นสนิทสนมกันดีก็สงสัยว่าไฉนเทพฝ่ายบริการซึ่งบุญบารมีใกล้เคียงกับตนเอง จึงมีฤทธิ์เหนือกว่า สามารถไปมาระหว่างโลกสวรรค์ โลกมนุษย์และโลกทิพย์ได้ จึงตั้งความปรารถนาที่จะมีฤทธิ์แบบเทพฝ่ายบริการบ้าง จึงขออนุญาติเทพเจ้าผู้ปกครองสวรรค์ลงมาสร้างฤทธิ์อำนาจในโลกมนุษย์ มนุษย์พวกนี้จะมาเกิดในหมู่โจร เกิดท่ามกลางคนชั่วคนเลว อันธพาล ผู้มีอิทธิพล นักการเมืองที่มีอำนาจ นี่คืออุปสรรคหรือบททดสอบสำหรับเขา ถ้าเขาปรับตัวเข้ากับบุคคลหล่านั้นได้ ยอมร่วมมือทำความชั่ว เขาจะมีความสุข มีอำนาจในโลกมนุษย์ แต่จะไม่มีฤทธิ์อำนาจตามที่ปรารถนาเอาไว้ ถ้าเขาเข้มแข็ง เป็นคนดีในหมู่โจร ไม่ยอมทำความชั่วแม้จะถูกบีบคั้น เมื่อเขาตาย ก็จะตายในขณะที่คุณความดียังอยู่ เมื่อเขาตาย สวรรค์จะต้อนรับเขา เขาคือ ครูญาณ ทูตสวรรค์ เขาจะมีฤทธิ์อำนาจไปมาข้ามห้วงเวลาได้ สามารถปรากฎตัวในโลกมนุษย์เพื่อรับวัตถุทานที่บุตรหลานบำเพ็ญกุศลไปให้ หรือปรากฎตัวในแดนสวรรค์เพื่อเสวยสุข หรือปรากฎตัวในอบายภูมิเพื่อศึกษาเรื่องผลของกรรม
- เกิดมาเพื่อเปลี่ยนวงจรชีวิต มนุษย์บางคนเกิดมาทำบุญน้อย ทำบาปมาก หลังจากตายแล้วต้องรับโทษ เมื่อรับโทษหมดไปประมาณ 90 % ก็กลับมาเกิดเป็นมนุษย์ และดำเนินชีวิตแบบเดิมคือ ทำบุญน้อย ทำบาปมาก วงจรชีวิตจะหมุนเวียนระหว่างโลกมนุษย์กับอบายภูมิ จนก่อนละโลกครั้งหลัง เขาได้พบสมณชีพราหมณ์ เกิดความเลื่อมใส ทำให้เริ่มหันหน้าเข้าวัด แต่ผลบุญยังน้อยมิอาจต้านทานกระแสบาปได้ ตายไปจึงต้องไปรับทุกข์ในอบายภูมิตามเดิม ก่อนตายได้ตั้งสัตย์อธิษฐานว่าจะทำความดีเพื่อไม่ให้ตกต่ำไปกว่าเดิม ดังนั้น เมื่อเกิดมาก็ยังต้องทนทุกข์ทรมาน เป็นคนอาภัพ ทำคุณคนไม่ขึ้น ปิดทองหลังพระ แต่เขาจะฝืนทำความดี ถึงแม้ว่าจะกลายเป็นคนดีที่โลกไม่แยแส เมื่อจบชีวิตแล้ว ทูตสวรรค์จะมารับวิญญาณไปสู่สวรรค์เบื้องสูง วงจรชีวิตจะเปลี่ยนไป ได้เสวยสุขในสวรรค์
- เกิดมาเพื่อก่อตั้งศาสนา เมื่อใดที่ศาสนาเสื่อมทรามจนเหลือแต่หลักวิชา และพระโพธิสัตว์จะมาจุติในโลก เหล่าทวยเทพจะติดตามลงมาเพื่อช่วยกันประกาศหลักธรรม เพื่อให้ศาสนาดำรงอยู่เป็นที่พึ่งของคนทั่วไป
- เกิดมาเพื่อรับพุทธพยากรณ์ ในโลกธาตุหนึ่ง จะมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้พร้อมกันสองพระองค์พร้อมกันมิได้เป็นอันขาด ในขณะที่หลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้ายังอยู่ครบครันมั่นคง หากจะมีใครคนหนึ่งอ้างตัวเป็นพระพุทธเจ้าองค์ใหม่ เขาผู้นั้นเป็นคนโกหกหลอกลวงอย่างหน้าด้านที่สุด ขณะที่พระโพธิสัตว์องค์หนึ่งจุติลงมาตรัสรู้เป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อประดิษฐานพระศาสนา พระโพธิสัตว์ผู้ที่จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไปก็จะติดตามลงมาเกิด เป็นมนุษย์ เพื่อรับพุทธพยากรณ์ เป้าหมายของพระโพธิสัตว์ คือ พุทธภูมิ ดังนั้นจะพร่ำสอนชี้แจงอย่างไร พระโพธิสัตว์ก็มิอาจบรรลุคุณวิเศษอันใดได้ พระโพธิสัตว์เกิดมาเพื่อรับพุทธพยากรณ์เท่านั้น
- เกิดมาเพื่ออุปถัมภ์ บางคนเคยทำบุญร่วมกัน แต่ไม่ได้ทำบาปร่วมกัน คนหนึ่งตายแล้วไปสวรรค์ อีกคนหนึ่งเกิดบนโลกมนุษย์ คนที่เกิดบนโลกมนุษย์จะยิ่งได้รับผลบุญมากเต็มที่เมื่ออยู่ร่วมกับคนที่อยู่ บนสวรรค์ หากคนที่อยู่บนสวรรค์ลงมาเกิดและอยู่ร่วมด้วย คนที่อยู่บนโลกมนุษย์ก็จะมีชีวิตที่ดีขึ้น ตัวอย่างเช่น ลูกบางคนเกิดมาทำให้พ่อแม่ร่ำรวย ค้าขายคล่อง การงานก้าวหน้า แต่ตัวลูกเองประพฤติตัวเกเร ถ้าพ่อแม่ไล่ออกจากบ้านก็จะทำให้ความเป็นอยู่ของพ่อแม่เดือดร้อนอีก
- เกิดมาเพื่อรับใช้อุปัฎฐาก เมื่อเทพเจ้าจุติลงมาเกิดเป็นมนุษย์ เพื่อเพิ่มเติมบารมีธรรมให้เต็มเปี่ยม เทพฝ่ายบริการ เทพผู้รับใช้ประจำตัวจะติดตามลงมาเกิด โดยทิ้งช่วงห่างประมาณ 10 ปีถึง 25 ปี เมื่อเทพเจ้าพระองค์นั้น (ในร่างมนุษย์) สร้างบารมีตนเอง เทพรับใช้ก็จะมามอบตัวเป็นลูกศิษย์คอยช่วยเหลือปฏิบัติดูแลเทพองค์นั้น เมื่อเทพองค์นั้นอำลาจากโลกมนุษย์ เทพรับใช้ก็จะอยู่ปฏิบัติงานจนเรียบร้อยแล้วก็จะติดตามกลับไปรับใช้ในโลก ทิพย์ต่อไป
- เกิดมาเพื่อทดสอบพรหมวิหารธรรม เทพเจ้าผู้สละพรหมโลกมาเกิดในโลกมนุษย์เพื่อสร้างบารมีเลื่อนอันดับเป็น เทพเจ้าผู้ปกครอง ปกติจะเป็นนักบวช อุทิศชีวิตเพื่อความรุ่งเรืองของศาสนา เป็นนักปฏิบัติธรรมผู้ไม่หวังลาภยศ วางเฉยได้ทั้งต่อคำยกย่องและคำด่า เพราะในหัวใจของท่านอัดแน่นไปด้วยฮัมมตัณหา ไม่มีที่ว่างเหลือสำหรับกามตัณหา
- เกิดมาเพื่ออนุรักษ์ประเพณีโบราณ ยามใดที่โลกมีวิญญาณชั้นสูงมาเกิดน้อย วิญญาณชั้นต่ำมาเกิดมาก พวกเทพจะอาสามาเกิดเป็นมนุษย์เพื่ออนุรักษ์ประเพณีโบราณ เทพเหล่านี้จะได้รับความเจริญในชีวิต ได้รับความคุ้มครองจากสวรรค์เป็นการตอบแทน ประเพณีโบราณได้แก่ ศิลปะวิทยาการอันเก่าแก่ เช่น ไสยศาสตร์ โหราศาสตร์ ดนตรี การขับร้องฟ้อนรำ วรรณคดี จิตรกรรม ประติมากรรม วัฒนธรรม
|
|
|