"อย่าเพียงแค่รู้ แต่ต้องตัดสินใจด้วยว่า เราเกิดมาทำไม?"
เกิดมาทำไม?
แนวคิดและมุมมอง7: เกิดมาเพื่อเรียนรู้
คนเราเกิดมาเพื่อ"รู้"นั้นเอง ที่ยังต้องเกิดเพราะยัง"ไม่รู้" ถามต่อไปอีกว่า "รู้" อะไรล่ะ คนเราในหนึ่งชีวิตคงไม่สามารถรู้อะไรไปได้ทั้งหมด จักรวาลนี้กว้างใหญ่นัก บางครั้งเราเรียนเรารู้ แต่เราก็ลืม บางครั้งหาแก่นสารของการรู้ไม่ได้เลย มันมากมาย เกินที่เราจะศึกษาได้หมด เรียนแล้วก็ลืมได้ มันก็ไม่เที่ยงแบบนี้ล่ะ ฉะนั้นในเวลาหนึ่งชีวิตที่น้อยนิด เราจำเป็นจะต้องเลือกสิ่งที่ควรเรียนสิ่งที่ควรรู้ สิ่งนั้นคือธรรมมะในพุทธศาสนานี้เท่านั้น คนเราเกิดมาเพื่อ"รู้"นั้นเอง ที่ยังต้องเกิดเพราะยัง"ไม่รู้" เพราะอวิชชา(ความไม่รู้) เป็นปัจจัย จึงมีสังขาร เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย จึงมีนามรูป เพราะนามรูปเป็นปัจจัย จึงมีสฬายตนะ เพราะสฬายตนะเป็นปัจจัย จึงมีผัสสะ เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงมีเวทนา เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงมีตัณหา เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงมีอุปาทาน เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงมีภพ เพราะภพเป็นปัจจัย จึงมีชาติ เพราะชาติเป็นปัจจัย จึงมีชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส เป็นอันว่ากองทุกข์ทั้งมวลนั่นย่อมเกิด ด้วยประการฉะนี้ | ชีวิตนี้ คืออะไรกัน? ฉันคิดว่า เป็นความบ้า ของธรรมชาติ ประหลาดขัน ปรุงแต่งธาตุ แห่งกายใจ ไหลเป็นควัน เป็นธาตุความ อร่อยชั้น สัณชาตญาณ ชีวิตนี้ มีทำไมกัน? ฉันเห็นว่า เพื่อความบ้า ถึงที่สุด สิ้นสงสาร สงบกาย ใจเย็น เป็นนิพพาน อวสาน แห่งความไหล ไม่มีควัน ชีวิตนี้ ทำอย่างไรกัน? ฉันถือว่า ต้องหยุดบ้า ในอร่อย คอยผ่อนผัน ตามองค์มรรค แปดประการ ประสานกัน ทุกคืนวัน ให้ถูกต้อง ครองสัมมา ฯ ( พุทธทาส อินทปัญโญ ) |
แนวคิดและมุมมอง6 : เพื่อใช้ชีวิตให้มีคุณค่า
ถึงแม้ว่าเราจะมีต้นทุนชีวิตที่ต่างกัน แต่เราก็ใช้มันให้มีคุณค่าได้ เรามาเกิดแล้ว หนึ่งชีวิตนี้ควรสร้างความภูมิใจให้ตัวเองได้บ้าง ทำประโยชน์กับบุพการี ครอบครัว และคนรอบข้างได้บ้าง เพราะเราก็เหมือนสิ่งมีชีวิตอื่น เกิดมาพร้อมกับ "หน้าที่" ดูอย่างต้นหญ้า มานก็ยังช่วยคลุมดิน ก็เป็นหน้าที่ของมัน แล้วคนอย่างเราล่ะ.. มีหน้าที่อะไรบ้าง..? ???????????????????????????? ขนาดแมลงบางชนิดเกิดมาไม่กี่วัน มันก็ต้องสืบพันธ์ก่อนจะตาย ถ้ามองมุมนี้ คนก็ไม่ต่างกัน มุมมองนักเศรฐศาสตร์ ให้เดาน่าจะเกิดมาเพื่อบริโภค คนเราเกิดมาก็ต้องกิน กิน กิน กิน อันนี้ คนก็ไม่ต่างจากสัตว์เหมือนกัน โดยรวม คน = สัตว์ เมื่อทรัพยากรไม่พอ คน > สัตว์ เมื่อมีศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยว คน < สัตว์ เมื่อปล่อยให้มีแต่ความโลภ และเห็นแก่ตัว แต่..ยังไง๊ยังไง คนมันก็เลือกทางของมันเอง ก็เลือกเอาที่อยากจะเป็นกันไป สบายใจอันไหนก็เป็นอันนั้นแล???? และไม่มีใครตอบได้ว่ามันเป็นเพราะอะไรกันแน่ ทุกคนต่าง มีมุมมองความคิดเป็นของตัวเอง อิง ความรู้ ความเข้าใจ สิ่งแวดล้อม และความเชื่อของตัวเอง เหตุผล เพื่อให้อยู่ต่อไปอย่างมีเป้าหมาย มีความสุขกับสิ่งที่ทำ แต่สำหรับฉัน.... คำถามนี้ ไม่มีคำตอบ เพราะฉันแค่อยากอยู่บนโลกใบนี้อย่างมีความสุข ได้ทำในสิ่งที่ อยากทำ และรักที่จะทำสิ่งนั้น ทำสิ่งดีๆ เท่าที่ชีวิตคนคนหนึ่งจะ ทำได้ ไม่ว่าโลกนี้จะเปลี่ยนไปอย่างไร หรืออะไรจะเกิดขึ้นต่อ จากนี้ ก็ไม่สำคัญ | ไม่รู้นะ สำหรับเรา เราเกิดตอนที่พ่อแม่มีความสุขที่สุด เกิดเพราะความรัก เกิดเพราะความต้องการ ดูมีคุณค่าชะมัด เกิดมาเพื่อให้คนสองคน ต้องเหนื่อย ต้องอยู่ด้วยกัน ต้องเรียกหากัน ต้องกินข้าวร่วมกัน ต้องทำมาหากินร่วมกัน ต้องร่วมกันสร้างอนาคตข้างหน้า ต้องผูกพันกัน ต้องมีกันและกัน คนแค่สองคน ทำให้คนอีกสิบคน มองเห็นความรัก ความต้องการ ความผูกพัน ทำให้คนสิบคนร่วมเดินทาง ร่วมผูกพัน เข้ามาเป็นส่วนร่วมด้วย และเพิ่มเติมเป็นสังคม เป็นประเทศ เป็นโลก เราสำคัญกันมากมาย มากกว่าที่เราจะมองเห็น การที่เราเกิดมา ทำให้โลกมีสิ่งมีชีวิตเพิ่มอีกชีวิต และสิ่งมีชีวิตนี้ จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โห คิดแล้วเราสำคัญจริงๆ ดังนั้นถ้าเราสำคัญมีความหมายขนาดนี้ คุณค่าของตัวเรา ก้อมากมายเช่นกัน จงทำตัวให้มีคุณค่าให้สมกับ การเกิดมาของเรากันเถอะ ทำอะไรที่ให้คนสองคน มีความสุขต่อไป ทำให้คนสิบคน มองเราได้อย่างสุขใจ ทำให้คนในสังคม ยิ้มรับเราได้อย่างเต็มใจ ทำให้คนทั้งประเทศ ยินดีที่มีเราอยู่ด้วย ทำให้โลกรับรู้ว่า สิ่งมีชีวิตอย่างเรา ดาวดวงอื่นหาไม่ได้อีกแล้ว ดีใจจังที่เกิดมา คุณเกิดมาเพื่ออะไร??? คุณมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร??? ทำไหม? อะไร ทำไหม เพราะอะไร?????????? เพื่อใคร คนเราเกิดมาเพื่ออะไร เกิดมาทำไม ตอบ ไม่รู้ ---->>>แต่ถ้าให้เดาก็เกิดมาเพื่อชดใช้กรรม และเกิดมาเพื่อสร้างบุญบารมี ชั่วชีวิตนี้คนเรามักจะคิดอยู่เสมอว่า "คนเราเกิดมาเพื่ออะไร เกิดมาทำไม" นี่ไม่ใช่ปัญหาสำคัญ สำคัญอยู่ที่ว่า "เราอยู่เพื่อใคร" ตอบ ตอนนี้ผมมีชีวิตอยู่เพื่อพ่อและแม่ เพื่อที่จะตอบแทนบุญคุณท่าน เพราะผมได้รู้กระจ่างแจ้งเมื่อไม่นานมานี้เอง "เราไม่ได้เกิดมาคนเดียว"ผมอยากให้ทุกคนจำคำนี้ไว้ ผมจะอยู่ต่อไปเพื่อให้พ่อแม่ภูมิใจ ผมยังจะต้องเป็นที่พึ่งของพ่อแม่ ญาติพี่น้องและอีกหลายๆคน ที่ผมจะต้องดูแลและช่วยเหลือเขา ตอนนี้ผมจะทำทุกสิ่งให้สำเร็จ บางทีเราเคยแอบคิด (ใช้คำว่า "แอบ" เพราะไม่อยากให้ใครรู้มาก) ว่าคนเรามีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไรกัน ตื่น...........ทำงาน..............รอเวลา..............กลับบ้าน..............สิ้นเดือน.............รับเงิน..............ใช้ ใช้ ใช้...........เงินหมด.............สิ้นเดือน..................รับเงิน...............10 ปี............20 ปี.................ตาย....... เราแค่คิดเล่นๆ ว่าเราจะทำงานไปเพื่ออะไรวันนึงเราก็ต้องตาย ถ้าเราตายซะตั้งแต่วันนี้ก็ไม่ต้องหาเงิน ไม่ต้องทำงาน เราถามเพื่อนบางคนที่คิดว่าน่าจะได้คำตอบแปลกใหม่ บางคนตอบว่า "ทำงานเพื่อเก็บเงิน" เราว่าจะเก็บไปทำอะไร เพื่อนบอก เก็บไว้ใช้ตอนแก่ "อ้าว ถ้าเราตายตอนนี้ เราก็ไม่แก่ เราก็ไม่ต้องเก็บเงิน ไม่ต้องทำงาน" บางคนว่า "เอาเงินไปเที่ยว" เราว่าจะเที่ยวทำไมล่ะ ตายไปก็จำไม่ได้หรอกว่าไปไหนมาบ้าง รูปถ่ายซักใบยังเอาไปสวรรค์ด้วยไม่ได้เลย บางคนบอกว่า "เราคิดว่าเราอยู่ก็มีความสุขกว่าเราตายวะ" เออ จริงของมัน อาจจะเป็นอย่างนั้นจริงๆก็ได้ เราเริ่มคล้อยตาม แต่ก็อีกนั่นแหละ จะรู้ได้ยังไง ตายไปอาจจะสนุกกว่าอยู่ก็ได้นี่หว่า ... ต่อมา คำถามเดียวกัน "เรามีชีวิตอยู่ไปทำไม" เกิดขึ้นที่โต๊ะอาหารตัวเดิมที่บ้าน พ่อ แม่ เราและน้องกำลังนั่งกินข้าวและคุยเรื่องสับเพเหระเหมือนเดิม น้องตอบว่า "เพื่อทำความดี" เราว่ามันอุดมคติเกินไปหรือเปล่า ตอบแบบนางเอกละครเชียว เราแซวน้อง แต่คำตอบเดียวที่ทำให้เราเถียงไม่ออก เกิดขึ้นขณะที่แม่กำลังแกะเนื้อปลาทูใส่ให้ในจานข้าวเรา แล้วบอกว่า "แม่ทำให้เราเกิดขึ้น เราก็ต้องอยู่เพื่อแม่" ... หลังจากนั้นเราไม่เคยถามคำถามนี้กับใครอีกเลย จริงอย่างที่ใครคนนึงบอก คนเราจะมี ตัวตนได้นั้นเกิดจากความสัมพันธ์ระหว่างกัน เช่น แม่ของลูก, ลูกของแม่, เพื่อนของเพื่อน, ปู่ของหลาน, แฟนของแฟน ไม่ใช่บอกว่าเราเป็นคนที่ไหน จังหวัดอะไร เพราะนั่นคงไม่ใช่ความหมายของชีวิตคนๆหนึ่ง วันนี้เรารู้แล้ว ว่าเราอยู่เพื่ออะไร สุดท้ายนี้อยากจะบอกว่าสิ่งที่ผมพูดมาเป็นจริง ตอนนี้คุณอยากจะยังคิดไม่ได้ แต่สักวันคุณจะต้องคิดได้แน่นอน(หวังว่าคงไม่สายไปนะ) ผมโชคดีดีพึ่งเข้าใจแบบลึกซึ้งเมื่อไม่นานมานี้เอง(ขอย้ำเข้าใจแบบลึกซึ้งนะ) สมัยก่อน ผมคิดว่าผมเข้าใจคำพูดเหล่านี้ดี แต่พึ่งเข้าใจแบบลึกซึ้งเมื่อไม่นานมานี้เอง |
แนวคิดและมุมมอง5
บางคนเกิดมาเพื่อชดใช้กรรมเก่า กรรม คือ การกระทำ เมื่อทำแล้วผลของกรรมจะถูกเก็บสั่งสมไว้ในใจ นี่คือ สมบัติแท้ของเรา ทำกรรมดีเก็บเป็นของดี คือบุญ ทำชั่วเก็บเป็นบาป ใครเป็นคนสั่งสม ใจของเราสั่งสมผลกรรมโดยอัตโนมัติ ทำแล้วไม่มีโมฆะ ทำแล้วผลของกรรมจะถูกเก็บไว้ทุกเรื่อง แล้วใครเป็นผู้รับผลกรรม ก็เราเอง แสดงว่าผลของกรรมออกมาก็ต้องรับ จึงมาใช้หนี้กรรมเก่า เป็นกรรมดีก็สบาย เป็นกรรมไม่ดี ก็มีอุปสรรคและปัญหาเกิดขึ้นกับชีวิต ใช้หนี้กรรมเก่าแล้วก็มาสร้างหนี้ใหม่ ถามท่านว่าได้สร้างหนี้ใหม่ชนิดไหนไว้บ้าง โดยเฉพาะ อกุศลกรรมเป็นหนี้ที่ทำให้บุคคลต้องเดือนร้อน มีอุปสรรคปัญหาในชีวิต เป็นหนี้ที่ไม่ดี บางคนเกิดมาเพื่อที่จะแสวงหา และครอบครองสมบัติกำพร้า ...สมบัติกำพร้า คือ สมบัติที่บุคคลจะต้องทิ้งร่างในวันข้างหน้า บางทียังไม่ตายแต่ต้องทิ้งไปจากเจ้าของ มันสูญไปจากเจ้าของ มันสูญไปจากเราเสียดื้อๆ เช่น ถูกน้ำพัดพาไป ถูกไฟไหม้ไป ถูกโจรลักขโมย เป็นต้น ...ถ้าพวกนี้ไม่ไปก่อนเรา แต่เราตายจากมันไป ทิ้งมันไว้ข้างหลัง มนุษย์สมบัติทั้งหลาย จะเป็นวัตถุก็ตาม เป็นชื่อเสียงก็ตาม เป็นตำแหน่งก็ตาม ตายไปแล้ว พบยมบาล ท่านไม่เคยเรียกตำแหน่งเลย มีแต่นายนั่น นายนี่ ไม่เรียกท่านผู้จัดการ ไม่เรียก ฯพณฯ ท่านยมบาลไม่เคยถามเลยว่า ตอนที่เป็นมนุษย์ ตำแหน่ง ยศ ของท่านเป็นอะไร ขี่รถยนต์ยี่ห้ออะไร มีบ้านหลังใหญ่หลังเล็ก ทำงานที่ไหน ถามแต่ว่า กรรมดีทำอะไรมา กรรมชั่วทำอะไรมา ถ้ากรรมดีนึกไม่ออก จะถามว่ากรรมชั่วทำอะไรมาบ้าง ถ้านึกออกและตอบได้ชัด โน่น อบายภูมิ เป็นที่ไปของชีวิตใหม่ปรโลก จาก หนังสือ "การบริหารใจ...เพื่อสร้างจิตสำนึก" ผู้เขียน: ดร. สนอง วรอุไร |
แนวคิดและมุมมอง4
|
แนวคิดและมุมมอง3
|
แนวคิดและมุมมอง2
บนโลกใบนี้ มีสิ่งต่างๆให้เรียนรู้มากมาย แต่น่าเสียดาย...ชีวิตเราไม่ยืนยาวพอ ที่จะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทุกอย่างได้ เราจึงควรเลือกเรียนรู้ถึงสาระสำคัญของชีวิตเสียก่อนที่จะสายเกินไป มนุษย์เกิดมาเพื่อชดใช้กรรมจริงหรือ ? หรือเกิดมาเพื่อตาย ตายแล้วเกิดใหม่ ก็ดูจะเป็นเหตุผลที่ธรรมดาเกินไป หรือเกิดมาเพื่อแสวงหาความมั่งคั่งให้ถึงที่สุด แต่สุดท้ายก็เอาอะไรไปไม่ได้...! ขณะที่ตัวเราเองยังไม่รู้เลยว่า คำตอบสุดท้ายของคำถามนี้ คือ อะไรกันแน่..! แล้วเราจะดำเนินชีวิตต่อไป และสรรหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองได้อย่างไร ? คนเราเกิดมาพร้อมกับความลับต่างๆ มากมาย แล้วอะไร คือ สิ่งที่เราควรแสวงหา อะไร คือ สิ่งที่ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาไปกับมัน |
แนวคิดและมุมมอง1
มนุษย์เกิดมาเพื่อพัฒนาตนให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งในชาตินี้ ชาติหน้าและต้องเกิดมาเพื่อประโยชน์แก่ผู้อื่นด้วย ดังนี้จึงได้ชื่อว่าเกิดมาเพื่อประโยชน์ตน และประโยชน์ท่าน ชีวิต การเดินทาง ชีวิตที่ยังไม่สิ้นกิเลสตัณหาอุปาทาน เมื่อสิ้นชีวิตจิตยังต้องปฏิสนธิคือต้องเกิดอีกตามผลของกรรม ชีวิตที่เกิดมาจึงไม่เหมือนกัน เพราะจำแนกสัตว์ให้เลวและปราณีตต่างกัน การปฏิสนธิของชีวิต ก็คือการเดินทางของจิต ที่จะต้องเดินทางภพหนึ่งไปยังอีกภพหนึ่งที่เราพูดกันว่า ชาติก่อน ชาติหน้า ชาตินี้ นั่นเอง เมื่อเกิดมาเป็นมนุษย์ เมื่อสิ้นชีวิตไปแล้วทุคติภูมิ คือภพภูมิที่ต่ำกว่า เช่น อบายภูมิทั้งสี่ ได้แก่ สัตว์นรก เปรต อสูรกาย สัตว์เดรัจฉาน "มาส่วางไปมืด" ถ้าไปเกิดในสุคติภูมิ คือภพภูมิที่สูงกว่า เช่น เทวภมู รูปพรหมภูมิ อรูปพรหมภูมิ ได้ชื่อว่า "มาสว่างไปสว่าง" |
1-7 of 7